คำและข้อความห้ามใช้ในโฆษณาเครื่องสำอาง ที่เจ้าของแบรนด์ควรรู้

     การขายสินค้าบนโลกออนไลน์ทุกวันนี้ คนที่วาทศิลป์ดี เล่าเรื่องเก่ง หยิบยกข้อมูลสินค้ามานำเสนอได้น่าสนใจ ย่อมโน้มน้าวการตัดสินใจของผู้บริโภค เพิ่มโอกาสขายสินค้าได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ แต่ทั้งนี้การชูสรรพคุณสินค้าจนเกินจริง ก็เสี่ยงผิดกฎหมายไม่รู้ตัว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ที่มีโทษหนัก ปรับสูงสุดถึง 100,000 บาท

     วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูล “คำและข้อความที่ห้ามใช้ในโฆษณาเครื่องสำอาง” ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มาให้ความรู้เจ้าของแบรนด์ ตัวแทนขายเครื่องสำอาง รวมไปถึงคนที่สนใจสร้างแบรนด์ ได้มีแนวทางการโฆษณาที่ถูกต้อง

ลักษณะการโฆษณาที่ฝ่าฝืนกฎหมาย

     โดยประเด็นหลักๆที่คนส่วนใหญ่เผลอฝ่าฝืนเรื่องโฆษณาเครื่องสำอาง มาจาก 4 หัวข้อ ได้แก่

1)การสื่อว่าผลิตภัณฑ์นั้นได้รับการรับรองคุณภาพจาก อย. ไร้สารเคมี ไร้สารพิษ
2)มีการเปรียบเทียบผลที่ได้จากการใช้เครื่องสำอางดีกว่าการทำหัตถการทางการแพทย์ เช่น ดีกว่าการทำเลเซอร์ การทำศัลยกรรม
3)อ้างว่ามีผลต่อสุขภาพ โครงสร้างของร่างกาย และการกระทำหน้าที่ใด ๆ ภายในร่างกาย เช่น ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการสร้างเม็ดสีผิว และ
4)อ้างสรรพคุณที่สามารถรักษาโรค หรือมีจุดมุ่งหมายอื่นที่ไม่ใช่เครื่องสำอาง เช่น ใช้แล้วเปิดดวงชะตารับทรัพย์

     ซึ่งทาง อย. ถือว่าเป็นการอวดอ้างเครื่องสำอางเกินจริง และไม่อนุญาตให้ใช้ ดังนั้นถ้าใครโฆษณาเข้าเงื่อนไขข้อห้ามอย่างใดอย่างหนึ่ง รู้ไว้เลยว่าทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนมองเห็นภาพชัดเจนขึ้น เราจะจำแนก คำและข้อความที่ห้ามใช้ ตามประเภทของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

     มาถึงตอนนี้ หลายๆคนน่าจะพอเข้าใจแนวทางการโฆษณามากขึ้น ทั้งเครื่องสำอางบำรุงผิวเน้นกระจ่างใส ลดริ้วรอย แก้ปัญหาสิว และป้องกันแสงแดด ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คนไทยให้ความนิยม สำหรับแบรนด์ที่ฝ่าฝืนใช้คำโฆษณาเครื่องสำอางเกินจริง และยังไม่ถูก อย. ตรวจสอบ ถ้าไม่เปลี่ยนแปลง วันหนึ่งก็ต้องถูกจับ ปรับ เสียทั้งเงินและภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้าที่สร้างมา ได้ไม่คุ้มเสีย!!

     สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า การโฆษณาชวนเชื่อเกินจริงอาจทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าได้ในระยะเวลาหนึ่ง แต่การขายด้วยคุณภาพ และความจริงใจกับลูกค้า คือ เส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่ทำให้แบรนด์เล็กๆกลายเป็นแบรนด์ใหญ่ได้อย่างในทุกวันนี้