แชร์

10 เทคนิคการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพดี Hair Care

อัพเดทล่าสุด: 24 มิ.ย. 2024
2213 ผู้เข้าชม
10 เทคนิคการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพดี Hair Care

     หน้าสวยแต่ผมเสียอย่างนี้ก็ไม่ได้นะคะ! ผมแห้งกรอบไม่เงางาม หนังศีระลอกมีรังแค อาจมาจากวิธีการดูแลแบบผิดๆ หรือหากใครที่ไม่เคยดูแลเส้นผมตัวเองเลยเพราะคิดว่าไม่ทำสีผม ไม่ใช้ความร้อนกับผมก็ไม่ทำให้ผมเสีย อันนี้คิดผิดมากๆ เพราะผมที่สุขภาพไม่ดีมาจากหลายสาเหตุซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมลภาวะและความเครียดที่ส่งผลให้ผมสุขภาพไม่ดี และยิ่งผมขาดการบำรุงด้วยแล้วก็จะยิ่งแห้งดูหยาบกระด้างไม่มีน้ำหนัก วันนี้TNP จะมาแนะนำเทคนิคการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะให้สุขภาพดีกันค่ะ

     การสระผมช่วยให้หนังศีรษะและเส้นผมปราศจากสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน ซึ่งความถี่ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นผม หากผมแห้งและเสียมากควรสระ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือหากมีหนังศีรษะที่มันก็ควรสระแบบวันเว้นวัน สำหรับคนที่สระผมบ่อยทุกวันเพราะคิดว่าหนังศีระมันง่ายบางทีคุณอาจคิดผิด การสระผมบ่อยๆ ด้วยแชมพูที่ทำความสะอาดแบบรุนแรงจะทำให้หนังศีรษะแห้งอย่างมาก เพราะสารทำความสะอาดจะดึงน้ำมันออกมามากเกินไป เมื่อหนังศีรษะแห้งมากๆ ด้วยกลไกตามธรรมชาติของผิวก็จะเพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นมาเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณคิดว่าตัวเองเป็นคนหนังศีรษะมันง่ายนั่นเอง
     อีกจุดที่ควรสังเกตคือเกล็ดหรือขุยที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะ หากมีแผ่นสีขาวเล็กๆ หลุดลอกออกมานั่นคืออาการของหนังศีรษะแห้ง ให้ลดความถี่ในการสระลง แต่ถ้าหากเป็นสะเก็ดสีขาวหรือเหลืองนั่นคือ รังแค ควรเพิ่มความถี่ในการสระผม เพราะสาเหตุของรังแคเกิดจากการที่หนังศีรษะมีความมันมากเกินไป ทำให้เชื้อจุลินทรีย์กินน้ำมันเป็นอาหารและก่อให้เกิดรังแคตามมา และจุดสำคัญของการสระผมคือให้เน้นการทำความสะอาดหนังศีรษะเป็นหลัก เส้นผมรองลงมา หากเส้นผมถูกทำความสะอาดมากเกินไปจนดึงความชุ่มชื้นในผมออกมามากจะทำให้ผมชี้ฟูและหยาบกระด้างได้

     เราไม่สามารถควบคุมมลภาวะหรือสิ่งแวดล้อมที่เข้ามาทำร้ายเส้นผมของเราได้แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือแชมพูที่ใช้ทำความสะอาดผม โดยประเภทของแชมพูขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่น ผมทำสีควรใช้แชมพูสูตรที่ออกแบบมาเพื่อผมทำสี เพื่อความสะอาดของหนังศีรษะและเพื่อรักษาสีผมที่ทำมาให้อยู่ได้นานที่สุด หากเลือกแชมพูที่ไม่เหมาะกับผมทำสีก็อาจจะทำให้สีผมนั้นเฟดไปเป็นสีอื่นที่ไม่ต้องการ ส่วนผมแห้งเสียควรใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของสารบำรุงเส้นผม เพื่อให้เส้นผมเงางาม นุ่มลื่นหวีง่าย ไม่พันกัน
     นอกจากนี้ในบางคนอาจมีผมที่หลุดร่วงได้ง่ายหรือระคายเคืองได้ง่ายควรเลือกใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน เพราะบางครั้งหนังศีรษะของเรานั้นไวต่อสารทำความสะอาดที่อยู่ในแชมพู เช่น Sodium Lauryl Sulfate (SLS) หรือ Sodium Laureth Sulfate (SLES) เป็นสารทำความสะอาดในกลุ่มซัลเฟต (Sulfate) ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ สามารถหลีกเลี่ยงสารกลุ่มนี้ได้โดยใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟต หรือมีสารทำความสะอาดที่อ่อนโยนเหมาะกับสภาพเส้นผม เช่น Sodium Lauroyl Sarcosinate หรือ Sodium Laurylglucosides Hydroxypropylsulfonate เป็นต้น

     ใช้ครีมนวดผมทุกครั้งหลังสระผมและต้องเป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพเส้นผม ซึ่งการใช้ครีมนวดจะเน้นที่บริเวณปลายผม เพราะเป็นส่วนที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ครีมนวดผมจะช่วยปรับสภาพเส้นผมให้นุ่ม หวีง่าย เงางาม มีน้ำหนัก ลดไฟฟ้าสถิตให้ผมไม่ชี้ฟู เคลือบผมเพิ่มความแข็งแรง และปกป้องเส้นผมจากแสงแดด ที่สำคัญไม่ควรลงครีมนวดผมบริเวณโคนผมเนื่องจากจะทำให้ผมเส้นเล็กดูลีบแบนได้ จึงควรใช้เฉพาะที่ปลายผมเท่านั้น และไม่ควรใช้กับหนังศีรษะเพราะในครีมนวดผมที่สารที่ช่วยเคลือบเส้นผม ซึ่งอาจไปอุดตันรูขุมขนบนหนังศรีษะได้ ทำให้เกิดรังแค และส่งผลให้เกิดปัญหาผมร่วง ผมบางตามมาได้

     หลังสระผมเสร็จควรซับน้ำและปล่อยให้ผมแห้งเองจะทำให้ผมสุขภาพดีที่สุด แต่หากสะดวกใช้ไดร์เป่าผมก็ควรใช้ลมเย็นหรือตั้งค่าความร้อนให้ต่ำที่สุด และใช้เวลาเป่าให้น้อยที่สุด เพราะความร้อนสามารถทำให้ผมเสียหายได้ และควรใช้หวีซี่ห่างในการหวีผมเพราะผมที่เปียกนั้นเปราะบางและขาดง่าย หรือหวีหลังผมแห้งจะดีที่สุด นอกจากนี้อย่านอนในขณะที่ผมยังเปียกอยู่ ความชื้นส่วนเกินจะทำให้หนังศีรษะเกิดอาการคันและมีรังแคตามมาได้ และพวกเชื้อราที่แอบแผงอยู่ในหมอนนั้นชอบความชื้นเป็นอย่างมาก พวกมันจะเติบโตอย่างรวดเร็วและเกาะติดอยู่บนหนังศีรษะก่อให้เกิดการอักเสบได้

     ในบางครั้งหากเรามีเวลาก็ควรที่จะบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมก่อนทำความสะอาด เช่น ทรีตเมนต์ผม หรือ น้ำมันบำรุงหนังศีรษะและเส้นผมที่มาจากธรรมชาติ ได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันมะกอก น้ำมันอะโวคาโด้ และน้ำมันโจโจบาร์ เป็นต้น น้ำมันธรรมชาติจะช่วยบำรุงหนังศีรษะให้สุขภาพดี เส้นผมแข็งแรงไม่ขาดง่าย เพิ่มความเงางามให้เส้มผมเป็นประกาย คืนความชุ่มชื้นให้เส้มผม รวมไปถึงช่วยปลอบประโลม ลดแรงเสียดทานระหว่างเส้นผมระหว่างการใช้แชมพู และนอกจากนี้การนวดหนังศีรษะระหว่างลงน้ำมันไปด้วยจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะ ช่วยผ่อนคลายหนังศีรษะ และลดความเครียดลงไปได้

     คุณหมอที่ญี่ปุ่นได้ออกมาแนะนำวิธีสระผมที่ถูกต้องซึ่งช่วยลดผมร่วงได้ เทรนด์การสระผมสไตล์คนญี่ปุ่นจึงโด่งดังมาถึงประเทศไทย และเมื่อมีหลายคนที่ลองทำตามปรากฎว่าช่วยลดผมร่วงได้ ซึ่งวิธีนี้ก็แล้วแต่สภาพผมของแต่ละบุคคลด้วยเช่นกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ล้างผมด้วยน้ำเปล่าประมาณ 30-60 วินาที จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกได้ถึง 80%
ขั้นตอนที่ 2 ตีฟองแชมพูด้วยมือ หรือตาข่ายตีฟอง แล้วค่อยนำฟองที่ได้นั้นไปเน้นทำความสะอาดที่หนังศีรษะ ขั้นตอนนี้จะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกโดยไม่ส่งผลเสียกับหนังศีรษะ
ขั้นตอนที่ 3 ขณะสระผมให้ใช้ท้องนิ้วทั้ง 10 นวดคลึงหนังศีรษะ ห้ามเกา
ขั้นตอนที่ 4 ล้างน้ำจากบริเวณท้ายทอยหรือส่วนต้นคอขึ้นไป หรือก็คือก้มศีรษะแล้วล้าง เป็นการล้างแบบสวนทางกับทิศทางของเส้นผม โดยใช้เวลาในการล้างออกให้นานกว่าการฟอกแชมพู 2 เท่า ถึงจะทำความสะอาดได้ดี
ขั้นตอนที่ 5 หลังสระผมเสร็จ ใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งภายใน 5 นาที เพราะความชื้นจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อราอย่างดี

     น้ำอุ่นจะช่วยดึงความมันและสิ่งสกปรกออกจากหนังศีรษะและเส้นผมได้ดีกว่าน้ำเย็น โดยอุณหภูมิน้ำอุ่นที่เหมาะสมก็คือ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่กำลังสบายหนังศีรษะ ช่วยให้ผ่อนคลายได้อย่างมาก แต่ถ้าหากน้ำมีอุณหภูมิสูงมากเกินไปจะกลายเป็นการทำลายหนังศีรษะและเส้นผม เส้นผมที่โดนน้ำร้อนจะเปราะบาง แตกหัก และหลุดร่วงได้ง่าย เพราะสูญเสียความชื้นและความยืดหยุ่นนั้นเอง ส่วนหนังศีรษะจะแห้งและลอก ส่งผลต่อรากผมและผมที่กำลังเกิดใหม่ได้
     การล้างผมด้วยน้ำเย็นเป็นการปิดท้าย ช่วยให้เกล็ดผมที่เปิดเพราะแชมพูปิดลงได้อย่างเรียบสนิททำให้ผมเงางามและยังป้องกันมลภาวะที่เข้ามาเกาะติดผมได้ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในเส้นผม หนังศีรษะไม่แห้งลอกเป็นขุย เย็นสบายคลายเครียด หากใช้น้ำเย็นทั้งขั้นตอนการสระและล้างออกจะทำให้ผมลีบแบนกว่าที่ควร ดูไม่ค่อยมีวอลลุ่ม

     การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่มีคลอรีนเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างหนึ่ง โดยคลอรีนจะไปทำลายเส้นผมให้เสียสภาพ ทำให้ผมขาดง่าย ไร้น้ำหนัก ขาดความชุ่มชื้น และสีผมอาจเกิดการซีดลงได้ ยิ่งสระว่ายน้ำกลางแจ้งด้วยแล้ว แสงแดดจะยิ่งเร่งให้ผมเสียได้ง่ายขึ้น เพราะแสงแดดจะเป็นตัวการในการเปิดเกล็ดผมทำให้คลอรีนเข้าไปทำลายเส้นผมได้ง่ายขึ้น วิธีปกป้องและดูแลเส้นผมจากคลอรีนมีดังนี้

1). หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำช่วงเวลาที่แดดจัด
2) สวมหมวกว่ายน้ำทุกครั้ง
3) ทำให้ผมเปียกทุกครั้งก่อนลงว่ายน้ำ
4) ล้างคลอรีนออกจากเส้นผมทุกครั้งหลังขึ้นจากสระว่ายน้ำ
5) สระผมเพื่อล้างคลอรีนที่ตกค้างอยู่ในเส้นผม
6) ใช้ครีมนวดผมทุกครั้งเพื่อบำรุงเส้นผมที่สูญเสียความชุ่มชื้นไป

     การดื่มน้ำเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ทั้งผิวและผมมีสุขภาพดี ใน 1 วันเราควรจะดื่มน้ำประมาณ 2 ลิตร เพื่อคงความชุ่มชื้นของร่างกาย หากร่างกายขาดน้ำก็จะส่งผลให้เส้นผมขาดความชุ่มชื้น ดูไม่มีน้ำหนัก
     เส้นผมสร้างจากโปรตีนและกรดอะมิโน ดังนั้นหากต้องการบำรุงผมก็ควรเลือกทานอาหารที่มีโปรตีนและกรดอะมิโน เช่น ชีส นม ถั่วเหลือง ถั่วเลนทิล ถั่วลันเตา ควินัว และโยเกิร์ต เป็นต้น และเสริมด้วยธาตุเหล็ก เช่น ปลา เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ไข่ และผักใบเขียว เป็นต้น อาหารที่ดีจะส่งผลให้เส้นผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย

     ความเชื่อแบบผิดๆ ที่ใช้นำมาดูแลผมนั้นนอกจากจะไม่ช่วยให้ผมสุขภาพดีแล้วยังทำร้ายผมได้อีกด้วย เช่น แปรงผมวันละ 100 ครั้งจะช่วยให้ผมแข็งแรง เป็นความเชื่อแบบผิดๆ ยิ่งแปรงมาก ยิ่งดึงรั้งเส้นผม เป็นสาเหตุทำให้ผมแตกปลายมากกว่าเดิม และยังทำให้รากผมอ่อนแอหลุดร่วงได้ง่าย ควรใช้หวีซี่ห่างและหวีแค่ให้ผมเรียบ หากมีผมพันกันควรแกะออกอย่างเบามือ ความเชื่อต่อมาคือ ผมแตกปลายเครื่องสำอางช่วยได้ บอกเลยว่าไม่จริง ผมแตกปลายคือผมที่เสียสภาพไปแล้วไม่สามารถกลับมาสุขภาพดีได้ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสามารถช่วยไม่ให้เส้มผมแตกปลายไปมากกว่าเดิมเพียงเท่านั้น ดังนั้นวิธีแก้คือต้องเล็มปลายผมส่วนที่แตกปลายออกเท่านั้น อีกหนึ่งความเชื่อก็คือ ถอนผมหงอกไม่ทำให้ผมบาง ซึ่งผมหงอกก็ถือเป็นเส้นผมเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่เกิดการผลิตเม็ดสีแล้วจึงทำให้เส้มผมมีสีขาวนั่นเอง หากไปทำการถอนออกเรื่อยๆ จะเป็นการลดจำนวนชีวิตของเส้นผมลงเรื่อยๆ โดยผมจะมีอายุขัยประมาณ 15-20 ชีวิต หากถอนผมหงอกครบ 20 ครั้ง ก็จะไม่มีผมใหม่เกิดขึ้นมาอีกเลย ผมเราก็จะดูบางลงนั่นเอง วิธีแก้ก็คือหยุดถอนผมหงอก ใช้การย้อมผมแทนนั่นเองค่ะ

 

 แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม  

 

BI-PHASE ARGAN OIL KERATIN SMOOTH HAIR SPRAY
สเปรย์บำรุงเส้นผมสูตรเฉพาะ TNP นวัตกรรม Bi-Phase บำรุงลึกถึงแกนผมเพิ่มความนุ่มลื่นให้เส้นผม ปิดเกล็ดผม ให้ผมเงางาม สุขภาพดี
https://www.tnpoem.com/product/39802-50072/bi-phase-argan-oil-keratin-smooth-hair-spray

HAIR TREATMENT PRO-SILK MASK
แฮร์ทรีทเม้นท์มาส์กเข้มข้น กลิ่นลูกแพร์และซากุระ เพิ่มพลังฟื้นฟูผมเสียเร่งด่วน ช่วยให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น แข็งแรง มีน้ำหนัก
https://www.tnpoem.com/product/38825-48155/har04

HAIR SHAMPOO MILD BERGAMOT OIL
แชมพูสูตรผสมสมุนไพร สีเขียวสดใส ให้กลิ่นหอมสดชื่น ฟองนุ่มละมุนขณะสระผม ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก พร้อมบำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน
https://www.tnpoem.com/product/38824-48154/har05

HAIR CONDITIONER ARGAN OIL
ครีมนวดผมสูตรเข้มข้นด้วยน้ำมันจากเมล็ดของต้นอาร์แกน ช่วยบำรุงเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลาย ให้แข็ง
แรง ชุ่มชื้น มีน้ำหนัก
https://www.tnpoem.com/product/38823-48153/har01

 

     จบไปแล้วกับ 10 เทคนิคดูแลเส้นผมและหนังศีรษะ บอกเลยว่าเทคนิคที่นำมาแชร์วันนี้สามารถช่วยให้มีหนังศีรษะที่สุขภาพดีและเส้มผมที่แข็งแรงได้จริงๆ
 สนใจทำแบรนด์แชมพู ครีมนวดผม เซรั่มบำรุงเส้นผม ติดต่อ TNP ได้เลยค่ะ ครบ จบ พร้อมขาย! 
บทความที่เกี่ยวข้อง
R&D Talk นักวิจัยขอเล่าเรื่อง EP.28 ข้อควรรู้! สารที่ควรหลีกเลี่ยงในเครื่องสำอาง
สารที่ควรหลีกเลี่ยงในเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง? ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อหรือเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ใน EP.28 นี้ TNP ได้สรุปสารที่ควรหลีกเลี่ยงในเครื่องสำอางประเภทต่างๆ มาให้แบบเข้าใจง่าย
9 ต.ค. 2024
ศูนย์ทดสอบเครื่องสำอางที่น่าไว้วางใจ
สร้างแบรนด์แตกต่างด้วยคำว่า พิสูจน์ได้ บริการส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์มีเอกสารรับรอง ศูนย์ทดสอบเครื่องสำอางที่น่าเชื่อถือ
8 ต.ค. 2024
R&D Talk นักวิจัยขอเล่าเรื่อง EP.24 การทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ตอน การทดสอบทางประสาทสัมผัส (Sensory Evaluation)
การที่จะออกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสูตรใหม่นั้นไม่ง่ายเลย ต้องมีการทดสอบมากมาย และหนึ่งในการทดสอบที่สำคัญคือ การทดสอบทางประสาทสัมผัส เป็นเสมือนการทดลองใช้ก่อนวางขายจริง
6 ส.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ