แชร์

6 เคล็ดลับอายแคร์ เสกใต้ตาดำแพนด้าให้หายไป

อัพเดทล่าสุด: 25 มิ.ย. 2024
1973 ผู้เข้าชม

     ผิวรอบดวงตานั้นบอบบางกว่าส่วนอื่นๆ ในร่างกายของเรา ทำให้เป็นส่วนที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียดสะสม และความเหนื่อยล้า ล้วนมีส่วนทำให้ผิวรอบดวงตาเกิดอาการบวมและหมองคล้ำ TNP ขอแนะนำ 6 เคล็ดลับอายแคร์เสกใต้ตาดำแพนด้าให้หายไป เพื่อดวงตาสว่างใสเป็นประกาย เพราะ "ดวงตาเป็นหน้าต่างของจิตใจ"

     ผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีความบางมากกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย เป็นจุดที่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนังน้อยมาก ๆ หรือในบางคนก็ไม่มีเลย นอกจากนี้ ยังมีเส้นเลือดมาเลี้ยงบริเวณนี้อย่างมาก ทำให้เป็นจุดที่มีความเปราะบางมาก ๆ พอเจอการกระตุ้นจากไลฟ์สไตล์และสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวันจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนล้า ความกังวล ความเครียด กรรมพันธุ์ และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ต้นเหตุเหล่านี้ส่งผลให้เกิดปัญหากวนใจอย่างรอยคล้ำรอบดวงตาหรือที่เรียกกันว่า "ตาแพนด้า" และถุงใต้ตา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและยังทำให้หน้าดูแก่ก่อนวัย


รอยคล้ำรอบดวงตา (dark circles)
รอยคล้ำรอบดวงตา ทางการแพทย์เรียกว่า periorbital hyperpigmentation หมายถึง ผิวหนังบริเวณโดยรอบดวงตามีสีคล้ำมากกว่าผิวหนังบริเวณใบหน้า สามารถเกิดได้ทั้งบริเวณเปลือกตาและใต้ดวงตา มี 5 สาเหตุหลักๆ คือ

1. รอยคล้ำรอบดวงตาที่เกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดฝอย
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าผิวรอบดวงตานั้นบางมาก ๆ และมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเยอะแยะมากมาย พอร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอสะสมมาก ๆ เข้า เส้นเลือดฝอยจึงเกิดขยายตัว ขาดความยืดหยุ่น และมีการซึมผ่านของเซลล์เม็ดเลือดแดงเพิ่มมากขึ้น หรือเกิดการรั่วของเซลล์เม็ดเลือดแดงออกนอกหลอดเลือดนั่นเอง เซลล์เม็ดเลือดแดงพอหลุดออกจากหลอดเลือดเจอสภาพความดันที่ไม่เหมาะสมก็แตกออก ทีนี้ ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงของคนเรานั้นมีฮีโมโกลบินอยู่ ซึ่งฮีโมโกลบินนั่นมีสีแดง เมื่อเจ้าฮีโมโกลบินสลายตัวจากสีแดงก็จะกลายเป็นสีส้มแดงเรียกว่าบิลิรูบิน (bilirubin) พร้อมออกไปสู่เนื้อเยื่อของผิวหนังและสะสมในผิวจนเรามองเห็นว่าเป็นรอยคล้ำใต้ดวงตา

2. รอยคล้ำใต้ดวงตาที่เกิดจากความผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานิน
เกิดจากเซลล์เมลาโนไซต์สร้างเม็ดสีดำหรือเมลานินออกมามากกว่าปกติ เม็ดสีเหล่านี้จะสะสมอยู่เป็นจำนวนมากในผิวหนังชั้นกำพร้า ทำให้ใต้ดวงตาเกิดรอยคล้ำที่มีสีดำน้ำตาล

3. รอยคล้ำใต้ดวงตาที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง
เรียกว่า post-inflammatory hyperpigmentation เกิดจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ภูมิแพ้จมูกอักเสบ หรือภูมิแพ้ตา เมื่อผิวมีการอักเสบ การไหลเวียดของเลือดก็ไม่ดีตามไปด้วย เส้นเลือดฝอยบริเวณใต้ตาอาจตีบตันจนทำให้เกิดการคั่งค้างของเลือดจนมองเห็นใต้ตาที่มีรอยคล้ำสีฟ้าหรือม่วง

4. รอยคล้ำรอบดวงตาที่เกิดจากโครงสร้างของใบหน้า
โครงสร้างของใบหน้ามีส่วนทำให้แสงและเงาที่ตกกระทบทำให้มองเห็นเป็นรอยคล้ำรอบดวงตา รอยคล้ำชนิดนี้สามารถหายได้เมื่อมีการส่องไฟโดยตรงบนใบหน้า

5. รอยคล้ำรอบดวงตาจากสาเหตุอื่น ๆ
จากความหย่อนคล้อยของผิว โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (iron deficiency anemia) และภาวะทุพโภชนาการ

ถุงใต้ตา (eye bags/ puffiness)
ถุงใต้ตาเป็นอาการบวมเพียงเล็กน้อยของผิวหนังบริเวณใต้ดวงตาเท่านั้น โดยสาเหตุเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยนั่นเอง นอกจากจะทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตาแล้วยังทำให้เกิดถุงใต้ตาขึ้นมาได้ด้วย ซึ่งนอกจากจะมีเซลล์เม็ดเลือดแดงที่รั่วออกมาจากหลอดเลือด สิ่งที่รั่วไหลออกมาด้วยคือ plasma ตัวพลาสมาโดยปกติจะถูกกำจัดโดยระบบน้ำเหลืองเพื่อให้ร่างกายสมดุล แต่เมื่อมีการรั่วไหลออกมามากเกินไปจนไม่สามารถกำจัดโดยระบบน้ำเหลืองได้ทัน จะส่งผลให้เกิดถุงใต้ตาขึ้นในที่สุด

     รอยคล้ำรอบดวงตาและถุงใต้ตาสามารถหายได้เองตามธรรมชาติของร่างกายแต่จะใช้เวลานานขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ และสิ่งแวดล้อมที่ยังคงเดิมอยู่ เช่น ยังนอนดึงเหมือนเดิม พักผ่อนไม่เพียงพอ รอยคล้ำและถุงใต้ตาก็จะยิ่งใช้เวลาหายช้ามาก ๆ ส่วนสายคลินิกมุ่งหาหมอก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้ไวแต่ก็แลกมากับผลข้างเคียงที่อาจจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์อายแคร์จึงเป็นอีกทางเลือกนึงที่เห็นผลและเกิดผลข้างเคียงได้น้อยมากหรือไม่พบเลย ช่วยให้ผิวรอบดวงตากระจ่างใส ถุงใต้ตาไม่มี องค์หน้าโดยรวมดูอ่อนวัย
     ทีเอ็นพี ขอแนะนำ 6 เคล็ดลับอายแคร์กับส่วนผสมที่จะช่วยแก้ปัญหากวนใจ โบกมือลาขอบตาดำแบบแพนด้าได้เลย!

     ผิวบริเวณรอบดวงตานั้นบอบบางและมีชั้นผิวที่บางกว่าผิวบริเวณอื่นๆ บนใบหน้า จึงมีอายแคร์สำหรับรอบดวงตาเฉพาะเพื่อดูแลใต้ตาให้สว่างกระจ่างใส โดยส่วนผสมที่ต้องระวังเองก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะสารบางอย่างก็ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งส่วนผสมที่สุ่มเสี่ยง เช่น

สารทำละลาย : alcohol, polyethylene glycol, toluene
สารหอม : essential oil, synthetic fragrance
สารยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ : benzalkonium chloride, phenoxyethanol, triclosan and triclocarban, parabens
สารลดแรงตึงผิว : sodium lauryl sulfate
สารให้ความชุ่มชื้น : propylene glycol, butylene glycol
สารเปปไทด์ : acetyl hexapeptide-3
สารวิตามินเอ : retinyl acetate, retinoic acid, retinol
สารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง : hydroquinone, steroids
สารบีเอชเอ : salicylic acid
สารกันแดด : oxybenzone
สารอื่น ๆ : formaldehyde, isopropyl cloprostenate, coal tar, ethanolamines (MEA/DEA/TEA), petroleum distillates, phthalates (DBP, DEHP, DEP), hydrogen peroxide

     ส่วนผสมที่มีประโยชน์ที่สุดสำหรับปัญหารอบดวงตาคล้ำคือ ส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยลดอาการบวมของถุงใต้ตาและบำรุงผิวรอบดวงตาโดยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้เป็นปกติมากขึ้น น้ำมันธรรมชาติที่มีสารสำคัญเป็นวิตามินเค จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดได้ เช่น แอพริคอต โรสฮิบ ทานตะวัน และอะโวคาโด้ บอกลาความหมองคล้ำและหย่อนคล้อยบริเวณใต้ตาได้เลย นอกจากนี้ สารสกัดคาโมมายล์ ดาวเรือง และกุหลาบ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและปลอบประโลมผิวได้ดี ในส่วนของส่วนผสมมัลติฟังก์ชันคือ สาหร่ายคลอเรลล่า เป็นสาหร่ายจิ๋วสีเขียวที่อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโน ช่วยการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ตา ลดเลือนความหมองคล้ำใต้ตา รวมถึงช่วยต่อต้านริ้วรอย

     สำหรับคนที่ใต้ตาคล้ำเพราะการผลิตเม็ดสีเมลานินผิดปกติ ต้องมองหาอายแคร์ที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยไปลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนังกำพร้าลง ส่วนผสมที่มัลติฟังก์ชันและเป็นที่นิยมตลอดกาลคือ วิตามินซีและอนุพันธ์วิตามินซี สามารถใช้ได้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็น ascorbic acid, 3-o-ethy ascorbic acid, caprylyl 2-glyceryl ascorbate, ascorbyl tetraisopalmitate และ ascorbyl palmitate นอกจากนี้ สารสกัดแปะก๊วย ชาเขียว และผักชีฝรั่ง เป็นส่วนผสมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับรอบดวงตาเนื่องจากเป็นแหล่งวิตามินซีตามธรรมชาติและจะช่วยเพิ่มความสว่างให้กับใต้ตาดำ ส่วนผสมที่มีความรักษ์โลกขอยกให้สารสกัดรากมันเทศหวาน โดยรากมันเทศหวานช่วยลดการปล่อยสารชักนำการอักเสบ ลดการสร้างเม็ดสีใต้ตาทำให้ขอบตาดูสว่างขึ้น ลดใต้ตาบวม และลดความอ่อนล้ารอบดวงตา

     ช่วงเวลาสำคัญที่จะช่วยลดขอบตาแพนด้าและถุงใต้ตาคือ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการนอนหลับก็มีส่วนสำคัญมาก ๆ ที่จะช่วยลดรอยคล้ำรอบดวงตาและถุงให้ตา โดยช่วงเวลาที่ร่างกายจะใช้ในการฟื้นฟูอยู่ที่ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้น หากไม่ได้ลำบากในการจัดการเวลาชีวิต การนอนหลับระหว่างช่วงเวลา 22.00-05.00/06.00/07.00 น. จะช่วยแก้ปัญหารอบดวงตาได้อย่างแน่นอน เพิ่มเติมเคล็ดลับการนอนหลับให้มีประสิทธิภาพอีกนิดคือ เลือกหมอนที่พอดีกับศีรษะ นอนแล้วสบาย ไม่ปวดคอ บ่า ไหล่ จะช่วยลดอาการบวมของถุงใต้ตาลงได้ นอกจากนี้ ไลฟ์สไตล์บางอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือลดลงได้แล้วจะดีต่อผิวรอบดวงตาคือ ลดการดื่มแอลกอฮอล์และนำเข้านิโคตินสู่ร่างกายนั่นเอง และจะให้ดีขึ้นไปอีกคือ ลดความเครียดในชีวิตลงบ้าง อาจจะหากิจกรรมผ่อนคลายตัวเองบ้าง เพื่อไม่ให้ร่างกายตึงเครียดเกินไป เมื่อสมองเครียดน้อยลง เราก็นอนหลับได้ดีขึ้น หมดปัญหาใต้ตาดำกวนใจ

     สาว ๆ ที่ชอบใช้อุปกรณ์นวดหน้า เช่น ลูกกลิ้งใต้ตา (cooling metal eye roller) และกัวซา (gua-sha) เมื่อใช้อย่างถูกวิธีย่อมส่งผลดีต่อการไหลเวียนของเลือดในผิวรอบดวงตา แต่หากใช้ผิด เช่น ใช้แรงกดที่ผิวหนังมากเกินไป หรือยืดผิวหนังจนตึงเกินไป จะส่งผลเสียมากกว่าผลดีแน่นอน นอกจากรอยคล้ำและถุงใต้ตาจะไม่หายแล้ว ผิวยังดูเสื่อมสภาพลงอีกด้วย เป็นเพราะคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวเกิดการเสื่อมสภาพจากการยืดผิวเกินไปนั่นเอง ผลเสียระยะยาวถ้ายังใช้แบบผิด ๆ คือ เปลือกตาหย่อนคล้อยและมีตีนกาเกิดขึ้นในอนาคตแน่นอน ดังนั้น เพื่อป้องกันผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจเกิดขึ้น ให้ใช้อายแคร์ที่มีส่วนผสมที่สามารถช่วยสังเคราะห์อิลาสตินและคอลลาเจนได้ เช่น สารสกัดเสาวรสที่มีนวัตกรรมย้อนวัยแบบใหม่ สามารถช่วยเพิ่มการแบ่งเซลล์และจำนวนท่อของเซลล์เยื่อบุหลอดน้ำเหลืองฝอย ช่วยลดถุงใต้ตาและต้านริ้วรอยรอบดวงตา สารสกัดสาหร่ายแดง สาหร่ายจิ๋วแต่ทรงพลัง พบสารโพลีแซคคาไรด์และแอสตาแซนทิน ช่วยคืนความกระชับของผิว ลดริ้วรอย ลดถุงใต้ตา ให้ความชุ่มชื้นผิว เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และสารสกัดเปลือกต้นแอช พบสาร Esculin และ Fraxin ช่วยลดความหมองคล้ำใต้ตา ช่วยให้ผิวรอบดวงตาเรียบเนียน อ่อนเยาว์

 

     ผิวที่บอบบางยอมได้รับความเสียหายจากมลภาวะต่าง ๆ ได้ง่าย ทั้งความเครียด แสงสีฟ้า ฝุ่นควัน มลพิษ ความร้อน และแสงแดด ตัวการณ์เหล่านี้นั้นส่งผลกระทบต่อผิวรอบดวงตาได้ง่าย ผิวบริเวณรอบดวงตาจึงมีอนุมูลอิสระก่อตัวขึ้นในชั้นผิว ทำให้ผิวดำคล้ำ สูญเสียความชุ่มชื้น เกิดริ้วรอย เป็นต้น ดังนั้น อายแคร์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระจึงสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เช่น สารสกัดโสมแดง พบสารสำคัญคือ ginsenoside ช่วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ลดอาการบวมของดวงตา และทำให้รอยคล้ำใต้ตาสว่างขึ้น

     สารคาเฟอีนจากเมล็ดกาแฟสีเขียว ช่วยแอนตี้ออกซิแดนท์ ลดความเหนื่อยล้าของดวงตา ความหมองคล้ำรอบดวงตาลดลง ให้ผิวรอบดวงตาสว่างกระจ่างใสเป็นประกาย สารสกัดเกาลัดม้า สุดยอดสมุนไพรจีน พบสารสำคัญคือ aescin สามารถยับยั้งการอักเสบ บรรเทาอาการบวม ช่วยลดถุงใต้ตา ลดอาการบวมใต้ตา และสารสกัดถั่วเลสเปเดซา ช่วยป้องกันความเครียดจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงสีฟ้า ช่วยการไหลเวียนของเลือด ต้านความเหนื่อยล้าของดวงตา ความหมองคล้ำใต้ตาลดลง

     สำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตาไม่จำเป็นต้องมีส่วนผสมที่มากมาย แต่ให้เน้นส่วนผสมที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพเท่านั้น ตามคอนเซ็ปต์ น้อยแต่มาก Less is more เพื่อลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองรอบดวงตาให้น้อยที่สุด แต่ถ้าหากในกรณีที่ต้องออกงานหรือไปเที่ยวแล้ว เวลาที่จะดูแลรอยคล้ำรอบดวงตาไม่มีแล้ว จะบอกว่าคอนซีลเลอร์ช่วยได้แบบทันตาเห็น ปาดแล้วเกลี่ย จะคล้ำแค่ไหนก็เอาอยู่ ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้นแบบชั่วคราวไปก่อน ส่วนการดูแลระยะยาวนั้น ควรมองหาอายแคร์ที่ตอบโจทย์สักตัวจะดีที่สุด พลิกหลักกล่องมองหาแอคทีฟที่ดูแลผิวบริเวณดวงตา สามารถมุ่งตรงเข้าแก้ปัญหาของผิวรอบดวงตา ช่วยลดรอยดำใต้ตา เพิ่มความกระชับ ลดถุงใต้ตา และปรับผิวองค์รวมบริเวณรอบดวงตาให้ดีขึ้นแบบรอบด้าน สามารถจัดการปัญหากวนใจได้อยู่หมัด

แหล่งที่มา
Subongkot, T. (2017). สารสำคัญที่มีฤทธิ์ลดรอยคล้ำรอบดวงตาและถุงใต้ตาในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (ANTI-DARK CIRCLE EYE AND ANTI-BAG EYE ACTIVE INGREDIENTS IN COSMETIC PRODUCTS). Thai Bulletin of Pharmaceutical Sciences, 12(1), 63-76.

แนะนำผลิตภัณฑ์

ปัญหารอบดวงตา ทั้งใต้ตาคล้ำ ผิวแห้ง ริ้วรอยที่ไม่น่ามอง ต้องนี่เลย!
EYE CREAM COLLAGEN VIT.E

ครีมบำรุงผิวรอบดวงตา เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน เปื่ยมด้วยคุณค่ามอยเจอร์ไรเซอร์เข้มข้น


บทความที่เกี่ยวข้อง
Trend 2025 Self Care Practices With Alternative Product เทรนด์ดูแลตัวเองให้ดูดีขึ้นอย่างยั่งยืน
อัปเดตเทรนด์ดูแลตัวเองปี 2025 เพื่อการดูแลตัวเองอย่างยั่งยืน รวมมาให้ครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่ Head to Toe ให้คุณหันกลับมารักตัวเองมากกว่าที่เคย
17 ม.ค. 2025
R&D Talk นักวิจัยขอเล่าเรื่อง EP.29 การโฆษณาเครื่องสำอาง (Cosmetics Advertising) อัปเดทล่าสุดปี พ.ศ.2567
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ขายดีย่อมต้องมีการโฆษณา ซึ่งเป็นกลยุทธหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ แต่การที่จะโฆษณาเครื่องสำอางได้นั้นก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายการโฆษณาเครื่องสำอาง และปัจจุบันทางกองควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตรายได้มีการปรับปรุงคู่มือการโฆษณา ฉบับล่าสุดปี พ.ศ.2567
9 ธ.ค. 2024
Complete Guide เริ่มต้นธุรกิจสปา ตั้งแต่คิดคอนเซปจนถึงเปิดร้าน
เรียนรู้ขั้นตอนสำคัญในการวางแผนทำธุรกิจร้านสปา ตั้งแต่เริ่มต้นคิดคอนเซปต์จนถึงวันเปิดร้านวันแรก เรียนรู้เรื่องการเงิน และการตลาดสู่ความสำเร็จของธุรกิจ
26 พ.ย. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ