Men’s Grooming ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชาย

Men’s Grooming ตลาดผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้ชาย


     ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องของรูปร่างหน้าตา ความหล่อความสวย เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ภาพลักษณ์ดูดี สร้างความมั่นใจให้แก่ตนเอง  แต่ใครจะไปคิดว่าวันนี้ผู้ชายทั่วโลกกำลังหันมาใส่ใจดูแลตัวเองมากขึ้น จนทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามสำหรับผู้ชาย หรือ Men’s Grooming กลายเป็นตลาดที่น่าจับตา

ตลาด Men’s Grooming ใหญ่ขนาดไหน? 


    ข้อมูลจาก Grand View Research บริษัทวิจัยด้านการตลาดในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ภาพรวมของ ตลาด Men’s Grooming ทั่วโลก มีมูลค่าราว 45.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1.49 ล้านล้านบาท และยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์กันว่าในอีก 6 ปีข้างหน้า ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายสำหรับผู้ชาย จะมีมูลค่าสูงถึง 75.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.49 ล้านล้านบาท ในปี 2027 


     ทั้งนี้ถ้ามาดูเทรนด์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย อย่างเกาหลีใต้ จะเห็นการนำไลฟ์สไตล์ของผู้ชายยุคใหม่ “ดูแลตัวเอง มีความมั่นใจ” มาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเกาหลีได้อย่างชัดเจน ผ่านภาพยนตร์ ซีรีส์ ดนตรี และศิลปินเกาหลี ที่ส่งต่ออิทธิพลนี้ไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงทำให้เกิดค่านิยมใหม่ว่า ผู้ชายก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ความงามได้เช่นกัน จากที่เมื่อก่อนจะจำกัดอยู่เฉพาะ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเป็นหลัก

     หรือแม้แต่ในประเทศจีนเอง ที่มีวัฒนธรรมและความเป็นชาตินิยมสูงมาก ก็มีกระแส Men Beauty เกิดขึ้น โดยข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ยังระบุอีกว่า บริษัทเครื่องสำอางในประเทศจีนจำนวนมาก ต่างหันมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของหนุ่มชาวจีนที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตนมากขึ้น

ที่มาภาพ : lofficielmalaysia.com

     ด้วยเหตุนี้เอง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์แฟชั่นและความงามชั้นนำ จึงต่างให้ความสนใจในผลิตภัณฑ์ Men’s Grooming และเข้ามาเพื่อครองส่วนแบ่งในตลาดอย่างไม่ขาดสาย แบรนด์ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี เช่น Chanel , Innisfree , Kiehl’s , Clarins , L’Oreal , Shiseido , Bobbi Brown , Etude House และ Three เป็นต้น

“แนวโน้ม Men’s Grooming ในไทย” ที่น่าจับตามอง


     ในขณะที่ พฤติกรรมของคนไทย ก็ได้รับอิทธิพลจากค่านิยมเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ทำให้ตลาดความงามมีการขยายตัวจากผู้หญิง ไปยังผู้ชายที่ต่างหันมาใส่ใจดูแลตัวเอง รวมไปจนถึงการดูแลผิวหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและความงามของผู้ชาย มีความคึกคัก กำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น


     เมื่อพิจารณาข้อมูลประชากร จะพบว่า ผู้ชายไทยวัยทำงาน ช่วงอายุ 15 – 54 ปี มีจำนวน 18.9 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28% ของประชากรทั้งประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียล อายุ 20-39 ปี ที่มีจำนวนสูงถึง 9.65 ล้านคน ซึ่งเป็นช่วงวัยทีใส่ใจตัวเองเป็นพิเศษ ดังนั้น ตลาดเมนส์กรูมมิ่ง จึงถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ สำหรับแบรนด์ความงามที่ต้องการแตกไลน์ ตอบโจทย์ผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เมนส์กรูมมิ่ง ที่น่าสนใจ ได้แก่

     จากข้อมูลที่รวบรวมมา น่าจะทำให้เจ้าของแบรนด์มองเห็นทิศทางของตลาด Men’s Grooming ว่ามีความน่าสนใจ และมีศักยภาพการเติบโตซ่อนไว้อยู่มากมาย ซึ่งการทำความเข้าใจและปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ควรให้ความสำคัญ หากอยาก “พิชิตใจ” ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ