10 อันดับเทรนด์การดูแลผิว ปี 2023 Top 10 Skin Care Trends of 2023

Last updated: 28 เม.ย 2566  |  5106 จำนวนผู้เข้าชม  | 

10 อันดับเทรนด์การดูแลผิว ปี 2023 Top 10 Skin Care Trends of 2023

     10 เทรนด์การดูแลผิวที่จะสร้างกระแสในปี 2023 หลายๆ เทรนด์ที่คาดการณ์ในปี 2022 กำลังสร้างกระแสในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Skin Cycling หรือ Skinimalism ที่เราพอคุ้นๆ และได้ยินกันมาบ้างแล้ว ซึ่งภาพรวมในปีนี้จะเน้นการดูแลผิวแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนการดูแลผิวที่ฟุ่มเฟือย เพื่อผิวที่กระจ่างใสสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ จากข้อมูลการรายงานของ Skin Inc เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนอ่านกันที่นี่แล้วค่ะ




 1.Skin Cycling

เทรนด์ Skin Cycling คือ การฟื้นฟูผิวใน 4 คืน โดยหมุนเวียนใช้สกินแคร์ดูแลผิวยามค่ำคืนที่แตกต่างกัน หลังจากครบ 4 คืนก็ทำซ้ำวนไปเรื่อยๆ ซึ่งแต่ละคืนมีดังนี้ค่ะ

คืนที่ 1 Exfoliate เน้นไปที่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว โดยแนะนำให้ใช้สารผลัดเซลล์ผิวกลุ่ม Chemical Exfoliator เช่น AHA, BHA, PHA รวมไปถึงเอนไซม์จากผลไม้ เช่น Papain และ Bromelain ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวจะช่วยให้รูขุมขนดูเล็กลงและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก เพื่อเตรียมใบหน้าของคุณให้พร้อมสำหรับคืนที่ 2

คืนที่ 2 Retinol เน้นใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของเรตินอลเพื่อฟื้นฟูผิวและดูแลเรื่องการลดเรือนริ้วรอย เพิ่มการสร้างคอลลาเจนและปรับผิวให้กระจ่างใส นอกจากนี้เพื่อลดโอกาสระคายเคืองสามารถเลือกใช้กลุ่มที่เป็นอนุพันธ์เรตินอยด์อื่นๆ ที่อ่อนโยนกว่าได้ เช่น Retinol Retinoate หรือ Retinyl Ester อื่นๆ รวมไปถึงเรตินอลจากธรรมชาติอย่างเช่น Bakuchiol

คืนที่ 3 และ 4 Recover ให้ผิวได้หยุดพักหายใจในช่วงเวลานี้ เน้นใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว ซ่อมแซมผิวส่วนที่เสียหาย เพื่อผิวฉ่ำน้ำและกระจ่างใส ส่วนผสมที่เป็นไฮไลท์ เช่น Ceramide, Hyarulonic Acid, Peptide เป็นต้น





 2.Mamey Sapote

ตามรายงานของ Trendalytics มีการพูดถึงส่วนผสมที่สำคัญสำหรับปี 2023 อย่างเช่น Peptide, Algae, L-Glutamine, Kojic Acid, Retinol, Winter Cherry และ Ashwagandha (โสมอินเดีย) ที่ล้วนมีแนวโน้มเติบโตในปี 2023 แต่ยังมีส่วนผสมที่น่าตื่นเต้นอย่างหนึ่งที่คาดการณ์มาจะมาในปีนี้นั่นก็คือ Mamey Sapote หรือ ละมุดยักษ์ ซาโปเต้ เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วโลก รวมไปถึงนำมาใช้ในการดูแลผิวด้วย ละมุดยักษ์ซาโปเต้มีวิตามินและแร่ธาตุสูง เช่น Vitamins A, B, C and E ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ในการดูแลผิว และยังมีประโยชน์อีกมากมายในการดูแลเส้นผมอีกด้วย






 3.Skinimalism

Skinimalism = Skip Care คือ เทรนด์ผิวที่โชว์ความเป็นธรรมชาติของผิวตัวเอง เน้นการบำรุงและดูแลผิวให้สุขภาพดี ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์หลายขั้นตอนแบบเก่าๆ ลดการใช้สกินแคร์ที่ซับซ้อน เหลือเพียงขั้นตอนที่สำคัญๆ เท่านั้น ได้แก่

ขั้นตอนที่ 1 ทำความสะอาดผิว
ขั้นตอนที่ 2 ดูแลและบำรุงผิว
ขั้นตอนที่ 3 ปกป้องผิว

Skinimalism รักตัวเองในแบบที่เป็น ให้สุขภาพผิวและสุขภาพจิตสมบูรณ์แบบในแบบของคุณ

เปรียบเสมือน Skip Care หรือก็คือการย่อ 10 Step Skincare Routine ให้เหลือเพียงแค่ไม่กี่ขั้นตอนที่จำเป็นกับผิวและโฟกัสไปที่ส่วนผสมที่ประโยชน์ต่อผิว ในขณะเดียวกันก็ลดจำนวนผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลงเพื่อทำให้รูทีนการดูแลผิวนั้นเรียบง่ายขึ้น

คอนเซ็ปต์ Less is more จะเป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหัวใจหลักของเทรนด์ที่เคารพและเข้าใจผิวของตัวเองว่าไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟคเสมอไป หมดยุคของการแต่งหน้าแบบฉาบปูนปล่อยให้ผิวได้เปล่งประกาย ดูแลผิวแบบเรียบง่ายและยั่งยืน โดยเลือกสกินแคร์ให้เหมาะสมกับสภาพผิว ลดสเต็ปขั้นตอนในการดูแลผิวเท่าที่จำเป็น ในสูตรผลิตภัณฑ์มีแค่ส่วนผสมที่จำเป็นไม่เกิน 10 ตัว เพื่อลดการแพ้และระคายเคือง สร้างความปลอดภัยให้กับผิวมากที่สุด






 4.Out of the Box Acids

หมดยุคที่จะใช้กรดดูแลผิวตัวเดิมๆ เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ยังมีกรดทางเลือกอีกมากมายที่มาใหม่ซึ่งให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากันและมีประโยชน์กับผิวมากขึ้น ซึ่งกรดที่กำลังมาแรงคือ Polyglutamic, Fermented Jasmonic, Lactobionic และ Tranexamic Acid กล่าวกันว่ากรดโพลีกลูตามิกจากถั่วนัตโตะทำงานได้ดีกว่ากรดไฮยาลูรอนิกในเรื่องการให้ความชุ่มชื้นผิว มีรายงานว่าอุ้มน้ำได้มากกว่าไฮยาถึง 4 เท่าและยึดเกาะกับผิวได้ดีกว่า นอกจากนี้กรด PHA และแลคโตไบโอนิกนั้นยังช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนและยังทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับผิวที่บอบบางและแห้งอีกด้วย






 5.PRP Boosted

PRP (Platelet Rich Plasma) คือ ส่วนประกอบของเลือดที่ได้มาจากเลือดของคนที่มีความเข้มข้นของเกล็ดเลือดเป็น 3-8 เท่า ของระดับเกล็ดเลือดปกติ มีระดับเกล็ดเลือดเข้มข้นที่เหมาะสมในการใช้รักษา โดยจะมี Growth Factor ช่วยกระตุ้นการหายของแผล และซ่อมแซมเซลล์ ทำให้เซลล์เจริญเติบโต การทำ PRP จะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เท่านั้น ปัจจุบันการทำ PRP เป็นนวัตกรรมที่นิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้อาการบาดเจ็บหายเร็วขึ้น ช่วยให้กระดูกติดเร็วขึ้น รวมไปถึงถูกนำมาใช้ในด้านความงาม เพื่อให้ผิวหน้ากระจ่างใส กระชับรูขุมขน กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจน รวมไปถึงการฉีดบริเวณศีรษะเพื่อบรรเทาอาการผมร่วง ผมบาง เป็นต้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาและฟื้นฟูเซลล์จากภายในโดยใช้เกล็ดเลือดของตัวเอง เป็นการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูง






 6.Fermented Ingredients

ในซีกโลกตะวันตกมีการยอมรับอาหารหมักดองอย่างเต็มที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้คนเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของ Pro-biotic ในลำไส้ และสารสกัดที่มาจากการหมักดองซึ่งเต็มไปด้วย Pro-biotic ที่มีประโยชน์ต่อผิวได้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อดูแลผิว ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ดูแลผิวที่บอบบาง และลดการระคายเคืองผิว






 7.Future Realities

เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ยินคำศัพท์เกี่ยวกับอนาคตมากมาย เช่น Omniverse และ Metaverse ซึ่งส่งผลกระทบต่อวงการความงามอยู่บ้าง เนื่องจากช่วง 3 ปีที่ผ่านมาได้มีการระบาดของ Covid-19 เกิดขึ้นทั้งโลก ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะออกจากบ้านเพื่อไปยังคลินิกความงาม ด้วยสาเหตุนี้จึงได้มีการให้คำปรึกษากับลูกค้าขึ้นในโลกเสมือนจริง หรือที่เรียกว่า Meta-Clinics นอกจากนี้ยังมีการทดลองใช้งานเสมือนจริงด้วย ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคด้านความงามเข้าถึงประสบการณ์และคำแนะนำได้ดีกว่าที่เคยมีมา มีการเข้าถึงที่กว้างขึ้น มีกระแสรายได้ใหม่ และการแบ่งปันความเชี่ยวชาญ





 8.Y2K

เทรนด์ความงามจาก Y2K กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง เทรนด์นี้ครอบคลุมหมวดหมู่ความงามทั้งหมด ได้แก่ เมกอัพ การกำจัดขน และการดูแลผิว ตัวอย่างเช่น Frosty & Glittery Eyes กลับมาอีกครั้ง เช่นเดียวกับริมฝีปากที่มีความแวววาว และการเขียนคิ้วให้บางลง






 9.Millennial Men

ผู้ชายยุคมิลเลนเนียล อยู่ในช่วงอายุ 25-40 ปี เป็นกลุ่มที่มีอำนาจในการใช้จ่ายสูงที่สุดในกลุ่มประชากรอื่นๆ และให้ความสำคัญกับบริการด้านสุขภาพ มองหาความงามและการดูแลตัวเอง เช่น การตัดผม การดูแลผิวหน้าขั้นสูง และการปรนนิบัติผิวกายอย่างครบวงจร โดยมีรายงานว่าธุรกิจสปามีผู้เข้าใช้งานที่เป็นผู้ชายมากถึง 40% นอกจากนี้ตลาดของกลุ่มนี้ยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลของ Mindbody เกือบ 70% ของผู้ชายยุคมิลเลนเนียลให้ความสำคัญกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี โดย

67% ของผู้ชายยุคมิลเลนเนียลเชื่อว่าความงามและการดูแลตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพที่ดี 
52% บอกว่าการดูแลผิวกลายเป็นสิ่งสำคัญจากในปีที่ผ่านมา 
54% รู้สึกว่าการทำทรีตเมนต์ เช่น บริการดูแลผิวหน้าและผมเป็นสิ่งจำเป็น





 10.Ways for Water Reduction

อุตสาหกรรมความงามมีความคิดในการบำบัดน้ำมานาน และเมื่อไม่นานมานี้ได้ริเริ่มการลดการใช้น้ำ หรือก็คือใช้น้ำให้น้อยลงนั่นเอง ซึ่งคอนเซ็ปต์ “Waterless” ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรามีความใส่ใจโลกมากขึ้น เนื่องจากน้ำในบางพื้นที่ถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดนั่นเอง สกินแคร์ที่มีแนวความคิดแบบนี้ก็จะตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี 




      10 เทรนด์ที่กำลังมาแรงจัดไปแบบจุกๆ เป็นไอเดียในการพัฒนาสกินแคร์ให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค และยังคำนึงถึงการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปด้วย TNP เรามีนักวิจัยและพัฒนาที่จะมาช่วยตอบโจทย์การสร้างแบรนด์สกินแคร์ของคุณ ปรึกษาได้เลยค่ะ!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้