Last updated: 5 ก.ย. 2566 | 961 จำนวนผู้เข้าชม |
ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้หญิงออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลทั้งในช่วงเวลาปกติและช่วงมีประจำเดือน ช่วยให้ผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นสะอาดและช่วยปกปิดกลิ่น ใน EP.17 นี้ TNP จะพาไปรู้จักกับโครงสร้างอวัยวะเพศหญิง แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัส และผลิตภัณฑ์เรื่องสำอางสำหรับจุดซ่อนเร้น
โครงสร้างบริเวณอวัยวะเพศหญิงประกอบด้วยหลายส่วนสำคัญ มีหน้าที่แตกต่างกัน และมีความซับซ้อน แบ่งออกเป็นส่วนของภายในและภายนอก ดังนี้
ส่วนภายใน ได้แก่ ช่องคลอด (vagina), ปากมดลูก (cervix), มดลูก (uterus), ท่อนำไข่ (fallopian tubes), และรังไข่ (ovaries)
ส่วนภายนอก ได้แก่ ปากช่องคลอด (vulva), หัวหน่าว (mons pubis), แคม (labia), คลิตอริส (clitoris), รูเปิดของท่อปัสสาวะ (urethral opening), ปากช่องคลอด (vaginal opening), และฝีเย็บ (perineum)
ในส่วนของปากช่องคลอดและช่องคลอดนั้น มีความสำคัญดังนี้
ปากช่องคลอด (vulva)
บริเวณปากช่องคลอดมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่สามารถใช้ได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบอ่อนโยน ผ้าเช็ดทำความสะอาด มอยส์เจอไรเซอร์ ครีม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น ตลอดจนผ้าอนามัย
ผิวบริเวณปากช่องคลอดมีความแตกต่างจากผิวส่วนอื่นๆ อยู่บ้าง เช่น
จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการทำงานของเกราะป้องกันผิวบริเวณปากช่องคลอดนั้นทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เมื่อเทียบกับผิวส่วนอื่นๆ ทำให้ระคายเคืองต่อสารเคมีได้ง่ายและเกิดโอกาสแพ้สูง
ช่องคลอด (vagina)
ช่องคลอดมีระบบนิเวศที่มีลักษณะเฉพาะ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงชีวิตของผู้หญิง โดยเกิดจากความแปรปรวนของระดับฮอร์โมน โรค กิจกรรมทางเพศ ยา สุขอนามัย เป็นต้น
ระดับฮอร์โมนที่ผันผวนมีอิทธิพลต่อจุลินทรีย์ในช่องคลอด ในช่องคลอดที่เจริญพันธ์และสุขภาพดีจะมีแบคทีเรียจำนวนมาก ได้แก่
โดยแบคทีเรียจะย่อยสลายไกลโคเจนเพื่อเป็นอาหารและเปลี่ยนเป็นกรดแลคติกเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นกรด สภาพแวดล้อมที่เป็นกรดมีค่า pH ประมาณ 3.5 - 4.5 เหมาะสำหรับแบคทีเรียดี และจำกัดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
จุลินทรีย์ก่อโรคจากสิ่งแวดล้อมภายนอกสามารถเข้าสู่ช่องคลอดและทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายและอักเสบได้ แลคโตบาซิลลัสเป็นแบคทีเรียที่ดีต่อช่องคลอด สามารถผลิตกรดแลคติกเพื่อควบคุมค่า pH ให้เหมาะสม เจริญเติบโตได้ดีที่สภาวะกรด
แบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสมีประโยชน์ต่อสุขภาพของช่องคลอดเนื่องจากพวกมันสามารถขัดขวางจุลินทรีย์ตัวอื่น ๆ ไม่ให้ไปเกาะติดกับเยื่อบุผิวในช่องคลอด
นอกจากนี้ยังสามารถผลิตสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (hydrogen peroxide) ซึ่งเป็นสารพิษสำหรับจุลินทรีย์ตัวอื่น ๆ สารนี้จะทำการยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดอื่นได้
ปัจจัยเหล่านี้จะไปทำการรบกวนสมดุลของแบคทีเรีย ก่อให้เกิดการติดเชื้อและโรคอื่น ๆ ขึ้น
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับผู้หญิงที่หลากหลาย ในทางเครื่องสำอางนั้นก็มีผลิตภัณฑ์สำหรับจุดซ่อนเร้นเช่นกัน
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับจุดซ่อนเร้น ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างอ่อนโยน ขจัดเซลล์ที่ตายแล้ว เหงื่อ ปัสสาวะที่ตกค้าง สารคัดหลั่งในช่องคลอด และเลือดจากบริเวณอวัยวะเพศในระหว่างมีประจำเดือน ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและช่วงคงค่า pH ให้เป็นปกติ
ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น ออกแบบมาเพื่อปกปิดกลิ่นเฉพาะที่เกิดขึ้นระหว่างวัน ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ เช่น สเปรย์ระงับกลิ่นสำหรับจุดซ่อนเร้น ผ้าเช็ดทำความสะอาด แป้งฝุ่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกาย
ผลิตภัณฑ์ดูดซับ ออกแบบมาเพื่อดูดซับของเหลวระหว่างรอบเดือน หรือในกรณีที่ปัสสาวะเล็ด ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ เช่น ผ้าอนามัยแบบแผ่น ผ้าอนามัยแบบสอด แผ่นอนามัย แผ่นซึมซับปัสสาวะ
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับจุดซ่อนเร้น ออกแบบมาเพื่อบำรุงผิวบริเวณจุดซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็น ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เป็นต้น
Did you know รู้หรือไม่?
ผ้าอนามัยทั้งแบบใช้ภายนอกและแบบสอดถูกจัดเป็นเครื่องสำอาง ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 เนื่องจากมีความสอดคล้องตามความหมายของเครื่องสำอางที่ว่า
1. วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใดกับส่วนภายนอกของร่ายกายมนุษย์ และให้หมายความรวมถึงการใช้กับฟันและเยื่อบุในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือเปลี่ยนแปลงลักษณะที่ปรากฏ หรือระงับกลิ่นกาย หรือปกป้องดูแลส่วนต่าง ๆ นั้น ให้อยู่ในสภาพดี และรวมตลอดทั้งเครื่องประทิ่นต่างๆ สำหรับผิวด้วย แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย
2. วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอางโดยเฉพาะ หรือ
3. วัตถุอื่นที่กำหนดโดยกฎกระทรวงให้เป็นเครื่องสำอาง
ส่วนถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นจัดเป็นเครื่องมือแพทย์
พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อจุดซ่อนเร้น
1.การสวนล้างช่องคลอดบ่อยๆ นั้นเป็นการส่งเสริมการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคและค่า pH ในช่องคลอดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยธรรมชาติของช่องคลอดนั้นสามารถทำความสะอาดตัวเองได้จึงไม่จำเป็นที่จะต้องสวนล้าง
2.เมื่อมีการติดเชื้อจากยีสต์และแบคทีเรียในช่องคลอดมักจะมีการแสดงอาการออกมา เช่น ตกขาวเปลี่ยนสีและมีกลิ่น แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อรับการักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะมาทานเอง เพราะอาจทำให้เชื้อดื้อยาได้
3.ปัญหาทั่วไปจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นคืออาการระคายเคืองหรือแพ้ เนื่องจากบริเวณจุดซ่อนเร้นนั้นบอบบางและไวต่อสารเคมีมากกว่าส่วนอื่นๆ ในร่างกาย
4.การทำความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสมและบ่อยเกินไปจะทำให้ผิวชั้น stratum corneum ที่บางอยู่แล้วได้รับความเสียหายได้ง่าย ซึ่งนำไปสู่การระคายเคือง
เครื่องสำอางสำหรับจุดซ่อนเร้นนั้นเน้นความอ่อนโยน ปกป้องผิวจากการระคายเคือง และมีค่า pH ที่เหมาะสม ซึ่งมักพบเจอผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตามตลาดที่วางขาย ได้แก่
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและขจัดกลิ่น (Cleansing and Deodorizing Product)
ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดับกลิ่นของผู้หญิงใช้กับบริเวณอวัยวะเพศภายนอกหรือในช่องคลอด มีจำหน่ายในหลายรูปแบบ ได้แก่ เจล สบู่เหลว ทิชชู่เปียก และสเปรย์ โดยเน้นความอ่อนโยน ใช้สารลดแรงตึงผิวที่ทำความสะอาดอย่างพอดี ไม่ชำระล้างรุนแรงเกินไป โดยปกติแล้วผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มักจะมีฟองน้อยมากหรือไม่มีเลย และให้ค่า pH ที่เหมาะสมกับผิว นอกจากนี้ยังมีสารต้านแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นรวมอยู่ในสูตรด้วย
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น (Feminine Wash)
ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ในส่วนของเนื้อสัมผัสและส่วนผสมนั้นจะมีความคล้ายคลึงกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวกายทั่วไป แต่มีบางจุดที่ต้องคำนึงถึง อย่างเช่น ความอ่อนโยนของสารลดแรงตึงผิวและค่า pH ของเนื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งควรมีความใกล้เคียงกับ pH บริเวณจุดซ่อนเร้นที่เป็นกรดอ่อน ๆ สามารถใช้ทำความสะอาดได้ทุกวัน
ส่วนผสมหลักของผลิตภัณฑ์
สารลดแรงตึงผิว (Surfactants)
มักใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวที่เป็นประจุลบ (anionics) เช่น sodium laureth sulfate หรือ สารลดแรงตึงผิวที่มีความอ่อนโยนมากกว่า เช่น sulfosuccinates หรือ isethionates ส่วนสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ (nonionics) เช่น decyl glucoside และสารลดแรงตึงผิวแอมโฟเทริก (amphoterics) เช่น cocamidopropyl betaine และ disodium cocoamphodiacetate
สารปรับสภาพผิว (Skin conditioners)
สารปรับสภาพผิวจะช่วยลดความแรงของสารลดแรงตึงผิวลงได้ เช่น quats และ hydrolyzed proteins
สารสกัดจากธรรมชาติ (Natural extracts)
สารสกัดจากธรรมชาติมีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์มากมาย เช่น ปลอบประโลม ลดอาการระคายเคือง ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และป้องกันอาการคัน เช่น ว่านหางจระเข้ ดอกคาโมไมล์ ชาเขียว ลูกพลับ และทับทิม
สารปรับความข้นหนืดหรือสารเพิ่มความคงตัว (Thickeners)
ช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์ ควบคุมการไหลของเนื้อ เช่น xanthan gum, hydroxyethyl cellulose, aluminum silicates ส่วนเกลือ หรือ sodium chloride ก็สามารถช่วยปรับความข้นของเนื้อได้เช่นกันเมื่อในสูตรมีสารลดแรงตึงผิวประจุลบอยู่ด้วย
บัฟเฟอร์ (pH buffers)
มีความสำคัญอย่างมาก ช่วยปรับค่าความเป็นกรดด่างในสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับ pH ของจุดซ่อนเร้น โดยปกติแล้วสูตรจะมีค่า pH เป็นกรด ซึ่งสารที่ช่วยปรับค่าตรงนี้ เช่น lactic acid และ citric acid
สารกันเสีย (Preservatives)
สารกันเสียจะต้องมีความอ่อนโยนด้วยเช่นกัน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว เช่น sodium benzoate, phenoxyethanol และchlorphenesin เป็นต้น
ส่วนผสมเพิ่มเติม
16 ม.ค. 2567